วันอังคารที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557

เลี้ยงลูกด้วยนมแม่


การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 

 

นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย อาหารมื้อแรกที่ลูกลืมตาดูโลก ควรจะเป็นนมจากเต้าของคุณแม่ การดื่มน้ำนมสีเหลืองบนอกอันอบอุ่นของคุณแม่จะได้รับพลังความรักที่มหาศาลทั้งคุณแม่และคุณลูก น้ำนมสีเหลืองที่ไหลจากอกแม่นั้นจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้กบทารกที่ดีเยี่ยม  นมแม่มีสารอาหารโปรตีนที่เหมาะสมกับทารก สามารถย่อยง่ายดูดซึมได้ดี ไม่มีการแพ้ ไม่ท้องผูก และประหยัดเวลา สะดวกในการให้ดื่ม ปลอดเชื้อโรค คุณแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้นานที่สุด ปัญหาของคุณแม่บางท่านคือไม่มีน้ำนม คุณแม่บางคนกลัวลูกจะอดรีบเปลี่ยนวิธีให้ลูกดื่มนมจากขวดแทน คุณแม่ไม่ควรใจร้อน ต้องพยายามให้ลูกได้ดูดบ่อยๆ เพื่อกระตุ้นต่อน้ำนมให้ผลิตน้ำนม เมื่อความพยายามสำเร็จ คุณแม่ก็จะมีน้ำนมที่เพียงพอในการเลี้ยงลูกตลอด

เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

การให้นมลูกควรให้เป็นเวลา ห่างกันสัก 2-3 ชั่วโมง โดยกอดสัมผัส หรือพูดคุยเพื่อเพิ่มความอบอุ่น เป็นการกระตุ้นพัฒนาการการเรียนรู้ของลูกให้มีพัฒนาการรวดเร็วขึ้น  ในกรณีที่คุณแม่ไม่อยู่บ้าน ไปธุระนอกบ้านก็ใช้วิธีรีดน้ำนมใส่ขวดทิ้งไว้ ก่อนรีดนมต้องใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเช็ดทำความสะอาดเต้านมก่อน ภาชนะที่ใส่ต้องฆ่าเชื้อโรคให้สะอาด ในการรีดก็ใช้มือทั้งสองข้างเคล้นน้ำนม แต่ในปัจจุบันจะมีที่ปั๊มน้ำนมจำหน่าย ใช้วิธีนี้จะสะดวกยิ่งขึ้น




วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

โรคความดันโลหิตสูง คนส่วนใหญ่เป็นโรคนี้ มักจะไม่รู้ตัวว่าเป็น

โรคความดันโลหิตสูง คนส่วนใหญ่เป็นโรคนี้ มักจะไม่รู้ตัวว่าเป็น  


โรคความดันโลหิตสูง (Hypertension) เป็นภาวะทางการแพทย์อย่างหนึ่ง โดยจะตรวจพบความดันโลหิตอยู่ในระดับที่สูงกว่าปกติ เรื้อรังอยู่เป็นเวลานาน ทั้งนี้องค์การอนามัยโลกกำหนดไว้ในปี 1999 ว่า ผู้ใดก็ตามที่มีความดันโลหิตวัดได้มากกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอท ถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง และการที่ความดันโลหิตสูงอยู่เป็นเวลานาน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหลอดเลือดในสมองตีบ โรคหัวใจ โรคไตวาย เส้นเลือดแดงใหญ่โป่งพอง อัมพาต ฯลฯ  โรคความดันโลหิตสูง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ที่มีความดันโลหิตสูงมักจะไม่รู้ตัวว่าเป็น เมื่อรู้ตัวว่าเป็นส่วนมากจะไม่ได้รับการดูแลรักษา ส่วนหนึ่งอาจจะเนื่องจากไม่มีอาการ ทำให้คนส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสนใจ เมื่อเริ่มมีอาการ หรือภาวะแทรกซ้อนแล้วจึงจะเริ่มสนใจ และรักษา ซึ่งบางครั้งก็อาจจะทำให้ผลการรักษาไม่ดีเท่าที่ควร

โรคความดันโลหิตสูง คนส่วนใหญ่เป็นโรคนี้ มักจะไม่รู้ตัวว่าเป็น

 การควบคุมความดันโลหิตให้ปกติอย่างสม่ำเสมอ สามารถลดโอกาสเกิดโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงอาจจะไม่มีอาการใด ๆ เลย หรืออาจจะพบว่ามีอาการปวดศีรษะ มึนงง เวียนศีรษะ และเหนื่อยง่ายผิดปกติ อาจมีอาการแน่นหน้าอก หรือนอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูงอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ 2 กรณีด้วยกันคือ กรณีที่ 1 ภาวะแทรกซ้อนจากความดันโลหิตสูงโดยตรง ได้แก่ ภาวะหัวใจวาย หรือหลอดเลือดในสมองแตก กรณีที่ 2 ภาวะแทรกซ้อนจากหลอดเลือดแดงตีบ หรือตัน เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือเรื้อรัง ทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะอาจจะทำให้ถึงแก่ชีวิตได้ หลอดเลือดสมองตีบ เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตหรือหลอดเลือดแดงในไตตีบมากถึงขั้นไตวายเรื้อรังได้  จากข้อมูลทางการแพทย์ระบุว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง และไม่ได้รับการรักษาจะเสียชีวิตจากหัวใจวายถึง 60-75% เสียชิตจากเส้นเลือดในสมองอุดตัน หรือแตก 20-30% และเสียชิตจากไตวายเรื้อรัง 5-10%





วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

เตือน ระวังโรคมือเท้าปาก

 ระวังโรคมือเท้าปาก


     แม้กระทรวงสาธารณสุขจะออกมายืนยันว่า โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่เกิดขึ้นทุกปีในประเทศไทย และไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่อย่างใด แต่ในประเทศไทยเองก็พบผู้ติดเชื้อจนมีผู้เสียชีวิตทุกปี แม้จะเป็นจำนวนไม่มากนัก ซึ่งก็ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองตื่นตกใจกันไม่น้อย เพราะส่วนใหญ่โรคนี้จะเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ           เชื่อว่าตอนนี้หลายคนคงกำลังหาข้อมูลกันอยู่ว่า โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากอะไร แล้วจริง ๆ โรคนี้อันตรายหรือไม่ หรือจะป้องกันตัวเองให้รอดพ้นจากโรคมือ เท้า ปาก ได้อย่างไร กระปุกดอทคอม ขอนำข้อมูลมาบอกต่อกันในวันนี้ค่ะ

     รู้จัก โรคมือ เท้า ปาก

              โรคมือ เท้า ปาก หรือ Hand, Foot and Mouth Disease มักเรียกติดปากกันว่า โรคมือ เท้า ปาก เปื่อย สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัสลำไส้ หรือเอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) โดยพบการระบาดของ โรคมือ เท้า ปาก เมื่อปี พ.ศ.2500 กับเด็กในเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้และยังมีตุ่มน้ำใสในช่องปาก มือ และเท้า

              ต่อมายังพบการระบาดกับกลุ่มเด็กในเมืองเบอร์มิงแฮม เมื่อปี พ.ศ.2502 เช่นกัน จนได้มีการเรียกกลุ่มอาการที่พบนี้ว่า Hand-Foot-and Mouth Disease (HFMD) หลังจากนั้นก็มีรายงานการระบาดของโรคมือ เท้า ปาก จากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก

              ทั้งนี้ โรคมือ เท้า ปาก จะมีการระบาดแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ หากเป็นประเทศเขตหนาวจะพบในช่วงฤดูร้อน และต้นฤดูใบไม้ร่วง ส่วนประเทศเขตร้อนชื้นจะพบได้ตลอดทั้งปี แต่จะระบาดมากในช่วงฤดูฝนที่มีอากาศร้อนชื้น และมักพบในกลุ่มเด็กทารก และเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี 

    โรคมือ เท้า ปาก ติดต่อกันได้ทางไหน

              โรคมือ เท้า ปาก สามารถติดต่อกันได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย สามารถติดต่อได้โดย

               การสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง ทั้งจากจมูก, ลำคอ และน้ำจากในตุ่มใส (Respiratory route) โดยเชื้อโรคอาจติดมากับสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ หรือการไอจามรดกันก็ได้

               ทางอุจจาระของผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสอยู่ (fecal - oral route ) โดยช่วงที่แพร่กระจายมากที่สุด คือ ในสัปดาห์แรกที่ผู้ป่วยมีอาการ และจะยังแพร่เชื้อได้จนกว่ารอยโรคจะหายไป แต่ก็ยังพบเชื้อในอุจจาระผู้ป่วยต่อได้อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ 

              ทั้งนี้ เชื้อเอนเทอโรไวรัสสามารถทนสภาวะกรดในทางเดินอาหารมนุษย์ได้ และมีชีวิตอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ 2-3 วัน โรคนี้ไม่สามารถติดต่อจากคนสู่สัตว์ หรือจากสัตว์สู่คนได้ 


    โรคมือเท้าปาก
    โรคมือ เท้า ปาก

    อาการของ โรคมือ เท้า ปาก

              โดยทั่วไป โรคมือ เท้า ปาก มักจะมีอาการไม่รุนแรง โดยจะมีระยะฟักตัวประมาณ 3-6 วัน และมีอาการเริ่มต้นคือ เป็นไข้ต่ำ ๆ มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ประมาณ 1-2 วัน จากนั้นจะเริ่มเจ็บปาก ไม่ยอมทานอาหาร เพราะมีตุ่มแดงที่เหงือก ลิ้น กระพุ้งแก้ม โดยตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใส รอบแผลจะอักเสบแดง ต่อมาตุ่มจะแตกออกเป็นแผลหลุมตื้น จากนั้นจะพบตุ่มหรือผื่น (มักไม่คัน) ที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้น แขน ขา และอวัยวะสืบพันธุ์ด้วย ในเด็กทารกอาจพบกระจายทั่วตัวได้ ทั้งนี้อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติภายใน  7-10 วัน โดยทิ้งรอยแผลเป็นให้เห็น

              อย่างไรก็ตาม โรคมือ เท้า ปาก อาจแสดงอาการในหลายระบบ เช่น

              1.ระบบทางเดินหายใจ อาจมีอาการเหมือนไข้หวัด ไอ มีน้ำมูกใส เจ็บคอ

              2.ทางผิวหนัง

              3.ทางระบบประสาท เช่น สมอง เยื่อหุ้มสมอง หรือเนื้อสมองอักเสบ

              4.ทางระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการท้องเสีย ถ่ายเหลวเป็นน้ำเล็กน้อย ปวดหัว อาเจียน

              5.ทางตา มักพบเยื่อบุตาอักเสบ (chemosis and conjuntivitis) และ

              6.ทางหัวใจ เช่น สามารถทำให้เกิดกล้ามเนื้อหรือเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบได้ ซึ่งอาจมีตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงอาการ หรือภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง 

              ทั้งนี้ หากผู้ป่วยเกิดผื่น ตุ่ม ที่มือ เท้า และปากนานเกิน 3 วัน แล้วยังมีอาการซึมตามมาด้วย ให้รีบพบแพทย์ทันที เพราะอาการซึมเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า เชื้อกำลังเข้าสู่สมองแล้ว และหากปล่อยไว้ไม่ยอมมารักษา เชื้อจะเข้าไปในสมองส่วนที่ควบคุมการทำงานของหัวใจ จนทำให้หัวใจล้มเหลว และเกิดน้ำท่วมปอดจนเสียชีวิตได้

    การรักษา โรคมือ เท้า ปาก

              ปกติแล้วโรคมือ เท้า ปาก สามารถหายได้เองภายใน 7-10 วัน หากไม่มีภาวะแทรกซ้อน โรคนี้ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ เพราะเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส จึงต้องใช้ภูมิคุ้มกันของตัวเองต่อสู้กับเชื้อโรค ทั้งนี้ แพทย์จะให้ยารักษาตามอาการ เช่น ให้ยาลดไข้ ยาแก้ปวด ทั้งนี้ ควรเช็ดตัวผู้ป่วยเป็นระยะ ๆ ให้อาหารอ่อน ๆ ดื่มน้ำและผลไม้ และนอนพักผ่อนให้มาก ๆ ถ้าเป็นเด็กเล็กอาจต้องป้อนนมแทนการให้ดูดจากขวดนม

              หลังจากการติดเชื้อผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสที่ก่อโรค แต่อาจเกิดโรคมือ เท้า ปาก ซ้ำได้ จาก เอนเทอโรไวรัสตัวอื่น ๆ ดังนั้น หากผู้ปกครองสังเกตเห็นลูกมีอาการที่อาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ไข้สูง ซึม อาเจียนบ่อย ๆ หอบ แขนขาอ่อนแรง ไม่ยอมรับประทานอาหารและนํ้า ก็ควรพาบุตรหลานมาพบแพทย์ 


    โรคมือเท้าปาก
    โรคมือ เท้า ปาก


    การป้องกัน โรคมือ เท้า ปาก

              ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก แต่โดยปกติป้องกันโรคมือ เท้า ปาก ได้ โดยการรักษาสุขอนามัยที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการรักษาความสะอาด ตัดเล็บให้สั้น หมั่นล้างมือด้วยน้ำสบู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายและก่อนรับประทานอาหาร รวมทั้งใช้ช้อนกลาง และไม่ใช้สิ่งของร่วมกัน

              ที่สำคัญ คือ ต้องแยกผู้ป่วยที่เป็นโรคออกจากกลุ่มเพื่อนในโรงเรียน สถานเลี้ยงเด็ก โดยไม่ให้เด็กทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น ๆ เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และต้องคอยทำความสะอาดพื้น ห้องน้ำ สุขา เครื่องใช้ ของเล่น สนามเด็กเล่น ตลอดจนเสื้อผ้า ที่อาจปนเปื้อนเชื้อด้วยนํ้ายาฆ่าเชื้อที่ใช้ทั่วไปภายในบ้าน

              หากมีเด็กป่วยจำนวนมาก อาจจำเป็นต้องปิดสถานที่ชั่วคราว (1-2 สัปดาห์) และทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค  โดยอาจใช้สารละลายเจือจางของน้ำยาฟอกขาว 1 ส่วนผสมกับน้ำ 30 ส่วน 

    ติดต่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม

               สถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง 

               ศูนย์ปฏิบัติการ กรมควบคุมโรค  โทร. 0-2590-3333

               สำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค  โทร. 0-2590-3194 

              แจ้งการระบาดของโรคได้ที่ สำนักระบาดวิทยา  กรมควบคุมโรค  โทร. 0-2590-1882

      
     เอกสารดาวน์โหลดเพิ่มเติม

               แผ่นพับโรคมือ เท้า ปาก 

               ความรู้เรื่องโรค มือ เท้า ปาก 

               ความรู้เกี่ยวกับ เรื่องโรคติดต่ออุบัติใหม่ (เรื่องโรค มือ เท้า ปาก)

               คำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับโรคมือ เท้า ปาก