เข้าสู่ฤดูฝนทีไร ก็มักจะเห็นคนจามฟึดฟัดกันอยู่บ่อยๆ บ้างก็เป็นแค่วัดธรรมดา ไอ จาม มีน้ำมูก บางคนก็ถึงขั้นเป็นไข้ ต้องล้มหมอนนอนเสื่อกันเลยทีเดียว
คราวนี้ก็ถือเวลาที่คนต้องหันมาดูแลสุขภาพกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด จะได้ไม่ต้องมีผลกระทบกับการเรียนหรือการทำงาน ซึ่งหลายๆ คนก็เคยได้ยินกันมาบ้างว่า วิตามินซีสามารถรักษาโรคหวัดได้ แต่ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร “108 เคล็ดกิน” มีมาบอก
จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันไม่สามารถป้องกันหวัดได้ และไม่มีผลลดความเสี่ยงในการเป็นหวัด ยกเว้นผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้ถึง 50% อย่างไรก็ตามพบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะสามารถช่วยลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้ ขนาดวิตามินซีที่แนะนำให้รับประทานเพื่อลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดคือ 1-3 กรัมต่อวัน และในผู้ที่ไม่เคยรับประทานวิตามินซีมาก่อน หากเป็นหวัดแล้วจึงเริ่มรับประทานวิตามินซี จะไม่สามารถช่วยลดความรุนแรงหรือระยะเวลาในการเป็นหวัดได้เลย”
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวิตามินซีจะไม่ได้ช่วยรักษาหวัดได้โดยตรง แต่ก็ยังคงมีประโยชน์สำหรับร่างกายของคนเราอีกหลายอย่าง แต่เนื่องจากร่างกายของคนเราไม่สามารถสร้างวิตามินซีเองได้ ส่วนใหญ่เราจะได้รับวิตามินซีจากการกินผักและผลไม้ นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามินซีในรูปแบบที่สกัดออกมาและวางขายในหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ดเคี้ยว แบบเม็ดฟู่ แบบเม็ดอม แบบเม็ดรับประทาน แบบแคปซูล
ส่วนผัก-ผลไม้ที่พบวิตามินซีได้ก็คือผักสดและผลไม้สดที่มีรสเปรี้ยวอย่างส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ สัปปะรด มะขามป้อม มะละกอ มะนาว สตอเบอรี่ ฯลฯ และในผักใบเขียวต่างๆ
ขอแถมอีกนิดสำหรับคนที่ติดหวัดไปแล้ว ขอแนะนำให้ดื่มน้ำขิงร้อนๆ เพราะรสเผ็ดร้อนและหอมแหลมๆ ของน้ำขิงนั้นมีส่วนประกอบของน้ำมันหอมระเหยและตัวยาสมุนไพรอีกหลายชนิดที่สามารถทุเลาอาการหวัดลงได้ และขอให้ลดอาหารประเภทนมและน้ำตาลลง เพราะมันจะยิ่งทำให้เสมหะข้นขึ้นสร้างความรำคาญให้แก่ตนเอง แถมน้ำตาลยังจะไปลดปริมาณเม็ดเลือดขาวที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคให้น้อยลงอีกด้วย
แล้วอย่าลืมดื่มน้ำมากๆ และพักผ่อนเยอะๆ ก็เป็นอันว่าโรคหวัดจะไม่รุกรานร่างกายของเรามากไปกว่านี้แล้ว
ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต